23 กันยายน 2553

เณรแป้ ณ เขาหัวแดง แฟนเพลงมิตรลำปำเมืองลุง

“อัลโหล สวัสดีครับ” หนุ่มใหญ่วัย 40 รับโทรศัพท์กล่าวสวัสดีกับผู้เขียน ด้วยถ้อยคำที่คุ้นหูปนเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอ หนุ่มใหญ่ผู้นี้คุ้นเสียงดีว่า เป็นเสียงอันมีความหมาย เมื่อยามใดที่ชายหนุ่มวัยเดียวกันโทรมานั้นจะต้องมีเรื่องราวให้เล่าขานมากมาย วันนี้ก็เหมือนกันคงเหมือนดังเช่นทุกครั้งคือไม่ต้องมีอันทำงานทำการ พลางคิดในใจทันทีว่า อีกสามสิบแปดนาทีนับถัดจากนี้ไป มีอันเป็นต้องฟังเพื่อนเก่าเล่าขานเรื่องราวอันที่จะต้องฟังอย่างเหน็ดเหนื่อยอีกเป็นแน่แท้ นายแป้หรือหลายๆคนเรียกว่า เณรแป้ หรือ ชื่อจริงว่า นายสุชาติ บุญพันธ์ ณ เขาหัวแดง ชายแดนลำปำ จังหวัดพัทลุง กล่าวตอบไปทางปลายสายโทรศัพท์ว่า “มึงมีไหรมั๊งไอ้เค็ม ” นายเค็มอันหมายถึงผู้เขียนพูดกลับไปทันทีว่า “ม๊าย......กูโทรไปหามึง ลองแลว่าหายไปกับการกระชับพื้นที่แลกคราว 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมาหรือม๊าย เห็นไอ้ตรันกะผึ้งโทรมาแลกไม่ขี้วันที วันก่อนกูกะแหลงกับไอ้รินโยว่า มึงผึ้งโทรหามันไม่เกินหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพื่อปรึกษางานลับไอ้ไหรบางอย่าง” ไอ้ริน หมายถึง ปลัดอำเภอหนุ่มรูปหล่อ หนี้สินพอสมควร นามกรว่านายนรินทร์ รัตนะเรือง (ชายหนุ่มเมื่อตอนเรียน ปวช.ชอบหนีบหนังสือใส่เป้าแล้วเหนียดเอว เดินไปเดินมาเป็นที่น่ารำคาญแก่เพื่อนฝูงเสมอ) ในโยกะทำงาน ณ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง อันเป็นเพื่อนที่กินและนอนด้วยกันเมื่อยามเจ็บไข้ไม่บาย ณ รามคำแหง 2 เมื่อยี่สิบปีก่อน ซึ่งมีเรื่องราวอันมากมาย ตามนิยายท้องเรื่องนั้นแหละพี่น้อง นายแดงหรือนายแป้ก็กล่าวไปว่า “ช่าย........กูเพิ่งโทรหามัน แต่กูกะไม่ได้หายไปน่ะเพื่อน เพียงแต่คิดว่า เมื่อผมนำเสนอไปแล้วมีแรงเสียดทานหรือไม่มีการขับเคลื่อนในการนำเสนอ อันเปรียบเสมือนฟันเฟืองที่จะต้องหมุนไปด้วยกัน ไม่อยากให้มีการดักหน้าแข้งกันและกัน อีกอย่างผมไม่มีเวลา เวลาค่อนข้างจำกัด มันจะเสีย opportunity cost(ภาษาอังกฤษ แปลว่าการเสียโอกาส) ในการใช้ความคิดของผม” ชายหนุ่มใหญ่วัย 40 กล่าวด้วยเสียงอันเรียบง่ายแต่บ่งบอกถึงความคิดอันเฉียบคม เพราะผู้เขียนรู้ดีว่าถ้าชายหนุ่มผู้นี้ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า ผม จะแสดงว่าเขาจะใช้คำพูดที่คิดและกรองดีแล้ว ถึงได้กล่าวออกมาเช่นนี้ ผู้เขียนจึงได้ตอบไปว่า “ไม่ปรือเพื่อนแป้ เค็มไม่กลัวเสียโอกาสหรอกน่ะ เพราะเราเสียมานานแล้ว วันนี้เรากะอายุปูนนี้แล้ว ถ้าเติมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 กะฉาบได้เลย เค็มเองให้ดีหวานี้กะไม่มีแล้ว กะต้องรับสภาวะไปทางนี้ มีไหรกะทำเลย ไม่ต้องคิดมาก หากมีโอกาสกะทำ ” มานะเพลานี้นายเค็มได้จับทางถูกแล้วว่าเหตุอันใดนายแป้ผู้นี้ถึงได้หายหูดไปเลย พลางนึกในใจหากมีโอกาสกะจะพยายามโทรหาเขาบ่อยๆ (โทรให้โหยะหวาเก่า) เพราะเขาเคยแสดงความแสดงความคิดเห็นแล้วน้อยใจเพื่อนหิดหนึ่ง โดยเค็มกะได้อธิบายไปแล้วว่า เพื่อนเรามีมากมายหลายชนิด บางทีกะหลายเผ่าพันธุ์ หลายเวอร์ชั่น หลายบริษัท หลายเหตุหลายผล ขี้หิดเดียวกะมี (หมายถึงคนขี้น้อยใจ)การสนทนาระหว่างเพื่อนเก่ากะได้ออกรสออกชาติพอสมควร มีเรื่องราวให้เล่า ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาษาพ่อขุน มีแต่คำว่า มึง กู และyetmay นึกถึงเช่อพ่อของแต่ละคนเพื่อรื้อฟื้นความหลังว่าพ่อเพื่อนเช่อไหรมั๊ง ซึ่งเพื่อนแป้อย่าว่าแต่เช่อพ่อเพื่อนเลย เช่อเพื่อนยังนึกไม่ค่อยออก การพูดคุยกันวันนั้นกะผสมปนเปกันไป มีอยู่ตอนหนึ่งเพื่อนแป้ได้กล่าวกับผู้เขียนว่า “เหวอสูทำไปถ่ะ กูว่าดีแล้วหากมีไหรให้บอก ยินดีเป็นอย่างยิ่ง นี่ถ้าเหวอสู้ลงเล่นการเมือง กูหนับหนุนเต็มที่ ” เค็มกะบอกไปกับมันว่า”ไอ้เพื่อนภาสและกูรวมทั้งกองเชียร์ในการจัดงานครั้งนี้ไม่ได้หวังไหรเลย ถ้าหากลงเล่นการเมืองไอ้ภาสมันคงไม่เอาแน่นอน แต่เค็มไม่แน่หวางนี้กะมีตำแหน่งทางการเมืองแล้วเบ็งขี้ไม่ค่อยออก หวางนี้เป็น อปพร.(อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน)แล้ว ส่วนตำแหน่งเอินไม่สนใจแน่นอนแล้ว จะอยู่พันนี้แหละจะไม่ทำตัวให้ตายบาทและตายโลน” การสนทนากะใช้เวลาไปตามที่ตั้งหัวข้อไป พอถึงเวลา 17.00 น.อันหมายถึงหมดเวลาโปรโมชั่นของโทรศัพท์กะเลยหยุดแหลง บอกเพื่อนแป้ไปว่าถึงบ้านแล้ว ต้องเอาข้าวให้แมวกิน และต้องไปเซ้อพุงปลากิน วันนี้อยากกินพุงปลา ครับวันนี้กะมีเท่านี้จริงๆครับเพื่อนที่เคารพ และต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการจัดเรียงความคิดในการจัดงานใหญ่ (คิดเอาเองว่าใหญ่น่ะครับ) ขอบคุณในกำลังใจจากเพื่อนมากมายก่ายกอง เราเองกับไอ้ภาส ซึ่ง ณ วันนี้เพื่อนยังบอกว่าไม่เหนื่อย ท่านประธานหยอย และเพื่อนๆอีกหลายคนกะไม่เหนื่อยมากหรอกน่ะเพื่อนๆ บอกแล้วว่าส่วนใหญ่แล้วได้กำลังใจกับเพื่อนฝูงจากเพื่อนมากมายจริงๆ กะเป็นไปตามนั้นน่ะครับ ใครว่างกะพบกันหวันเที่ยงวันเสาร์เลย ใครไม่ว่างกะมาเร็วหิด (อ่านแล้วกะแปลว่ามาเร็วหิด) ไม่ว่าเพื่อนไอ้ภา เพื่อนไอ้เอียดเคลียร์แล้ว ไอ้จุ๊บตามที่บอก เพื่อนเหลี้ยมได้ข่าวมาวันนี้ ไอ้ตรัน ไอ้เชษฐ์ มาวันศุกร์ หญิงหวีมาพร้อมเพื่อนเลี่ยมลงหาดใหญ่ เหวอกรุงเทพมาเท่าที่ซาบ เท่เหลือไม่แจ้งอาจเอาไว้เซอร์ไปรท์ ส่วนเท่เมืองลุงกะคงพร้อมหน้าพร้อมตาตามที่นัดไว้ ค่อยเล่าให้เพื่อนฟังวันหลังครับ ออ.....เพื่อนยุ....... ยุคนธร คนสวยแจ้งมาว่ามาพร้อมไอ้เดือน ใครอยากเห็นเหวอนี้ตัวเป็นๆกะมาพบเพื่อนได้แลกสาวๆไม่ใช่หารแหลงพันนี้พอเป็นเมืองขึ้นของเพื่อนกะหารดีนี้แหละ (เมืองบางเมืองอายุยังน้อย บางเมืองอายุแค่ 38,39 ทั้งที่ตัวเอง 40 แล้ว ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) เท่เหลือกะไอ้เนี่ยมเบี้ยให้แล้ว ใครไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเป็นๆนานแล้วกะอาจพบได้งานนี้ (เพื่อนยังไม่Cancleมาทีว่ามาหรือม๊าย ที่เห็นกะติดเรียนหลายคน (หรือไปส่งเด็กเรียนกะไม่โร๊ะ) สอบเนติฯกะหลาย เช่น ไอ้ฮูก เพื่อนชาติ (อภิชาต)แต่กะ BB มาหาเค็มแล้วว่าฝากเบี้ยกับไอ้เม็ง) แต่กะอย่างที่บอกครับเพื่อนที่เคารพ ฝากไว้คำเดียวว่า “หากไม่ติดไหร เพื่อนยังมาเวลา ยานรถมาได้ เช่น
สายพัทลุง - กงหรา
สายพัทลุง - ปรางหมู่
สาย พัทลุง- ควนขนุน
สายพัทลุง - ปากคลอง
สาย พัทลุง- เขาชัยสน
สายพัทลุง - พังกิ่ง
สายพัทลุง - ป่าพะยอม
สายพัทลุง – ควนถบ
สายพัทลุง - ลำปำ
สายพัทลุง – เขาย่า
สายพัทลุง – เขาปู่
สายพัทลุง – ทะเลน้อย
สายพัทลุง – ลำสินธุ์ - บ้านโตนแพรทอง
ฯลฯ
โดยเฉพาะสายตุ๊กๆรอบเมืองลุง ทั้งหลาย แถววัดโด่หอม เดินเอากะถึง หลบมาน่ะพี่น้อง ตอนนี้หลายอย่างกะสงบแล้ว หลายคนอาจเป็นห่วงน้องฟิล์มกะน้องแอนนี่ กะไม่ปรือชีวิตของน้องเค้าคงแก้ปัญหาของเค้าเอง เรามาสร้างแนวคิดตามอุดมการณ์ซึ่งคิดว่า ถึงเวลาในการขับเคลื่อนแล้ว บ้านเมืองเป็นของเราทุกคน ตั้งแต่หญ้าขี้เตรย จนถึงระบบสุริยจักรวาล หากเราไม่ตายโลนเสียก่อนอีกราว 20-30 ปีข้างหน้าบ้านเมืองของเราเปลี่ยนแปลงแน่นอน เค็มมั่นใจเช่นนั้น จึงนำมาจุดประกายเช่นนี้ ......หวัดดีครับ
ลงเช่อ นายเค็ม คงดำ
โฆษกประจำตัวเลขานุการชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง
ลงเช่อ นายประภาส ชูพูล
เลขานุการชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง
ลงเช่อ (ชิดพงษ์ พัชรดำรงกุล)
ประธานรุ่น 5 อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคพัทลุง

ไม่มีความคิดเห็น: