29 กันยายน 2553

ฟัน-longวันงานเลี้ยง


ครับ.............ก้อ สวัสดีพี่น้องชาวอิเล็กทรอนิกส์ทุกท่านครับ วันเวลาและนาทีกะผ่านไปเป็นเวลาหลายวันแล้ว ตัวกระผมเองมีเรื่องแจ้งในเบื้องต้น เอาเท่าที่เอาได้ก่อนครับ เริ่มเรื่องน่ะครับ

ประเด็นแรก สรุปในการทำงานคืนนั้น กะผ่านไปด้วยดี ขอขอบคุณเจ้าของเครื่องไฟ ขอบคุณแผนก ขอบคุณครูทุกคน ขอบคุณครูครรชิต ขอบคุณ ครูธวัชชัย เอ็นจิเนียริงเรื่องเครื่องไฟคืนนั้น ขอบคุณน้องๆในแผนกที่ดูแลพี่ๆให้ได้รับความสะดวกในหลายๆสถานการณ์ ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานและได้ลงทะเบียน ประมาณ หนึ่งร้อยคน และที่ไม่ลงทะเบียน เช่น ผู้ติดตาม ผู้สังเกตการณ์ ผู้หยบมาแลอีกนับไม่โถก ฯลฯ มีที่อยู่อีเมล์ทำให้สามารถสื่อสารกับพี่น้องทางนี้ได้ และกรุณาช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อนที่ไม่โร้ให้ทราบด้วยน่ะครับ

ประเด็นที่สอง เรื่องรายรับ ณ วันนี้รายรับผ่านไปแล้วสามวันกะยังรับเท่ากับคืนนั้นคือ จำนวนเงิน 108,320 บาท และคณะกรรมการบริหารชมรมกะได้มีการประชุมสรุปผลการจัดงานในวันรุ่งขึ้น ณ แผนกฯ มีความเห็นว่าเราจะไม่ทวงเหวอที่ยังไม่สมทบ แต่เหรัญญิกและเลขานุการชมรมได้สรุปตัวเลขยอดรวมครบแล้ว รายรับและรายจ่ายกะลงตัวหมดแล้ว แต่เราไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้สมทบได้ สรุปว่าเราจะเปิดเผยอีก สองสัปดาห์ พร้อมเปิดตัวเวฟไซท์ ชมรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้มอบหมายเป็นทางการให้กับ ครูโกสินทร์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าแผนกเรานี้เอง เป็นผู้ดูแลเรียบร้อยแล้ว การเปิดเผยตัวเลข เพียงแต่สรุปยอดรวมว่า รุ่นไหนได้มาเท่าใด และเป็นยอดรวมของรุ่น(นายหัวรุ่นเป็นผู้รับผิดชอบ) อันนี้ผมเองได้มีการประสานในแต่ละรุ่นพอสมควรแล้ว หากท่านใดมีเรื่องสอบถามกะติดต่อมาทางกระผมได้ครับ

ประเด็นรายจ่าย ผมเองจะเผยแพร่ ณ วันนี้เลยครับ เพราะเท่าที่มีการตรวจสอบหลังงานกะไม่มีรายจ่ายใดล็องฉ๊องแม้ ณ รายการเดียว รายจ่ายดังนี้ครับ

รำเบิกโรง 2,300.00 บาท

หางเครื่อง ชุด 1 3,000.00 บาท

หางเครื่อง ชุด 2 2,300.00 บาท

เหล้า 8,400.00 บาท

เบียร์สด 4,210.00 บาท

อุปกรณ์ สติ๊กเกอร์ ไวนิล ค่าทำเอกสาร ฯลฯ 4,000.00 บาท

มิกเซอร์ 3,670.00 บาท

ป้ายแขวนคอ 900.00 บาท

อาหาร 20,000.00 บาท

โต๊ะ+เก้าอี้ 2,000.00 บาท

เสื้อ โปโล 30,000.00 บาท

ค่าขนส่งเสื้อ 230.00 บาท

อุปกรณ์เผาปลา 680.00 บาท

ค่าดูแลทั่วไป (จัดเวที สถานที่ อำนวยความสะดวก ทำความสะอาด ฯลฯ) 2,000.00 บาท

รวมรายจ่ายทั้งหมด 83,690.00 บาท

ประเด็นถัดมา พอเราเอาตัวเลขมากองรวมกัน หักทุ่มไปเท่ากับรายจ่ายที่จ่ายไปแล้ว มีกองหนึ่งเท่เหลือกะเท่านี้ครับ 24,630.00 บาท ผลการรวมตัวเลขเป็นที่น่าพอใจแก่คณะกรรมการเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะท่านประธานไม่ต้องชักเป้าเองเล่า ผมเองกับเลขานุการชมรมหยบคิดตั้งแต่ตีสามของคืนนั้นแล้ว แต่ไม่บอกท่านประธานครับแต่บางรุ่นกะโทรมาบอกแล้วว่าเงินไม่ใช่มีความหมายกับเรา มิตรภาพสิสำคัญที่สุดในการทำงาน เขาจะหามาสมทบอีกทีหลังงาน เห็นว่าจะดังหวาเกาเล่า ครับเวลาสองสัปดาห์คงเพียงพอครับ ไม่ปรือครับพี่น้องทั้งหลายเอาได้เท่าที่เอาได้ครับ ประเด็นนี้ผมเองขอจบเท่านี้ก่อนน่ะครับ

ประเด็นสุดท้าย มุมหนึ่งของคืนงานในวันนั้น ผมมีเรื่องบอกเล่าให้กับสมาชิกได้ฟังครับ เวลา 21.35 น. ชายวัยเกือบหกสิบ สวมเสื้อเจ๊กเก็ต โลโก้ชมรมอิเล็กทรอนิกส์ เดินมาที่หลังเวที ท่านกล่าวกับผมด้วยเสียงเรียบง่ายว่า เหวอสูอย่าเชิญผมขึ้นเวที ผมแหลงไม่โถก เพราะผมไม่ได้เป็นครูที่นี่แล้ว แต่ผมยินดีมาทุกปี เหวอสูไม่ต้องมามากพันนี้กะได้ ปีหนึ่งกะสักห้าหกสิบคนกะพอแล้วในการเริ่มต้น กับเพื่อนๆที่มีอุดมการณ์คล้ายๆกัน ครูกะบายใจอย่างแรงแล้ว ครูขอเป็นกำลังใจให้น่ะ ว่างๆไปกินกาแฟบ้านครูได้ เท่หลังโรงบาลพัทลุง ครับพอผมได้ฟังดังนั้น ผมเองอึ้งไปค่อนข้างพอสมควร แต่กะยังสามารถที่จะจำเหตุการณ์คืนนั้นได้ดี นี้แหละครับคือกำลังใจของพี่ของน้องทุกคนที่มาในคืนนั้น จึงได้บอกกล่าวให้กับชาวชมรมอิเล็กฯทุกคนได้ฟังครับ (ส่วนจะเป็นใครนั้นจะไม่เฉลยแต่ให้คิดเอาเองว่าใคร) พบกันอีกครั้งวันเปิดตัว website ชมรมของเราครับ Commig Soon

ลงชื่อ นายสุเชษฐ์ คงดำ

นายทะเบียนชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วท.พัทลุง

ตรวจและรับรองคำพูดโดย

นายประภาส ชูพูล

เลขานุการชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วท.พัทลุง

23 กันยายน 2553

เณรแป้ ณ เขาหัวแดง แฟนเพลงมิตรลำปำเมืองลุง

“อัลโหล สวัสดีครับ” หนุ่มใหญ่วัย 40 รับโทรศัพท์กล่าวสวัสดีกับผู้เขียน ด้วยถ้อยคำที่คุ้นหูปนเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอ หนุ่มใหญ่ผู้นี้คุ้นเสียงดีว่า เป็นเสียงอันมีความหมาย เมื่อยามใดที่ชายหนุ่มวัยเดียวกันโทรมานั้นจะต้องมีเรื่องราวให้เล่าขานมากมาย วันนี้ก็เหมือนกันคงเหมือนดังเช่นทุกครั้งคือไม่ต้องมีอันทำงานทำการ พลางคิดในใจทันทีว่า อีกสามสิบแปดนาทีนับถัดจากนี้ไป มีอันเป็นต้องฟังเพื่อนเก่าเล่าขานเรื่องราวอันที่จะต้องฟังอย่างเหน็ดเหนื่อยอีกเป็นแน่แท้ นายแป้หรือหลายๆคนเรียกว่า เณรแป้ หรือ ชื่อจริงว่า นายสุชาติ บุญพันธ์ ณ เขาหัวแดง ชายแดนลำปำ จังหวัดพัทลุง กล่าวตอบไปทางปลายสายโทรศัพท์ว่า “มึงมีไหรมั๊งไอ้เค็ม ” นายเค็มอันหมายถึงผู้เขียนพูดกลับไปทันทีว่า “ม๊าย......กูโทรไปหามึง ลองแลว่าหายไปกับการกระชับพื้นที่แลกคราว 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมาหรือม๊าย เห็นไอ้ตรันกะผึ้งโทรมาแลกไม่ขี้วันที วันก่อนกูกะแหลงกับไอ้รินโยว่า มึงผึ้งโทรหามันไม่เกินหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพื่อปรึกษางานลับไอ้ไหรบางอย่าง” ไอ้ริน หมายถึง ปลัดอำเภอหนุ่มรูปหล่อ หนี้สินพอสมควร นามกรว่านายนรินทร์ รัตนะเรือง (ชายหนุ่มเมื่อตอนเรียน ปวช.ชอบหนีบหนังสือใส่เป้าแล้วเหนียดเอว เดินไปเดินมาเป็นที่น่ารำคาญแก่เพื่อนฝูงเสมอ) ในโยกะทำงาน ณ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง อันเป็นเพื่อนที่กินและนอนด้วยกันเมื่อยามเจ็บไข้ไม่บาย ณ รามคำแหง 2 เมื่อยี่สิบปีก่อน ซึ่งมีเรื่องราวอันมากมาย ตามนิยายท้องเรื่องนั้นแหละพี่น้อง นายแดงหรือนายแป้ก็กล่าวไปว่า “ช่าย........กูเพิ่งโทรหามัน แต่กูกะไม่ได้หายไปน่ะเพื่อน เพียงแต่คิดว่า เมื่อผมนำเสนอไปแล้วมีแรงเสียดทานหรือไม่มีการขับเคลื่อนในการนำเสนอ อันเปรียบเสมือนฟันเฟืองที่จะต้องหมุนไปด้วยกัน ไม่อยากให้มีการดักหน้าแข้งกันและกัน อีกอย่างผมไม่มีเวลา เวลาค่อนข้างจำกัด มันจะเสีย opportunity cost(ภาษาอังกฤษ แปลว่าการเสียโอกาส) ในการใช้ความคิดของผม” ชายหนุ่มใหญ่วัย 40 กล่าวด้วยเสียงอันเรียบง่ายแต่บ่งบอกถึงความคิดอันเฉียบคม เพราะผู้เขียนรู้ดีว่าถ้าชายหนุ่มผู้นี้ใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า ผม จะแสดงว่าเขาจะใช้คำพูดที่คิดและกรองดีแล้ว ถึงได้กล่าวออกมาเช่นนี้ ผู้เขียนจึงได้ตอบไปว่า “ไม่ปรือเพื่อนแป้ เค็มไม่กลัวเสียโอกาสหรอกน่ะ เพราะเราเสียมานานแล้ว วันนี้เรากะอายุปูนนี้แล้ว ถ้าเติมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 กะฉาบได้เลย เค็มเองให้ดีหวานี้กะไม่มีแล้ว กะต้องรับสภาวะไปทางนี้ มีไหรกะทำเลย ไม่ต้องคิดมาก หากมีโอกาสกะทำ ” มานะเพลานี้นายเค็มได้จับทางถูกแล้วว่าเหตุอันใดนายแป้ผู้นี้ถึงได้หายหูดไปเลย พลางนึกในใจหากมีโอกาสกะจะพยายามโทรหาเขาบ่อยๆ (โทรให้โหยะหวาเก่า) เพราะเขาเคยแสดงความแสดงความคิดเห็นแล้วน้อยใจเพื่อนหิดหนึ่ง โดยเค็มกะได้อธิบายไปแล้วว่า เพื่อนเรามีมากมายหลายชนิด บางทีกะหลายเผ่าพันธุ์ หลายเวอร์ชั่น หลายบริษัท หลายเหตุหลายผล ขี้หิดเดียวกะมี (หมายถึงคนขี้น้อยใจ)การสนทนาระหว่างเพื่อนเก่ากะได้ออกรสออกชาติพอสมควร มีเรื่องราวให้เล่า ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาษาพ่อขุน มีแต่คำว่า มึง กู และyetmay นึกถึงเช่อพ่อของแต่ละคนเพื่อรื้อฟื้นความหลังว่าพ่อเพื่อนเช่อไหรมั๊ง ซึ่งเพื่อนแป้อย่าว่าแต่เช่อพ่อเพื่อนเลย เช่อเพื่อนยังนึกไม่ค่อยออก การพูดคุยกันวันนั้นกะผสมปนเปกันไป มีอยู่ตอนหนึ่งเพื่อนแป้ได้กล่าวกับผู้เขียนว่า “เหวอสูทำไปถ่ะ กูว่าดีแล้วหากมีไหรให้บอก ยินดีเป็นอย่างยิ่ง นี่ถ้าเหวอสู้ลงเล่นการเมือง กูหนับหนุนเต็มที่ ” เค็มกะบอกไปกับมันว่า”ไอ้เพื่อนภาสและกูรวมทั้งกองเชียร์ในการจัดงานครั้งนี้ไม่ได้หวังไหรเลย ถ้าหากลงเล่นการเมืองไอ้ภาสมันคงไม่เอาแน่นอน แต่เค็มไม่แน่หวางนี้กะมีตำแหน่งทางการเมืองแล้วเบ็งขี้ไม่ค่อยออก หวางนี้เป็น อปพร.(อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน)แล้ว ส่วนตำแหน่งเอินไม่สนใจแน่นอนแล้ว จะอยู่พันนี้แหละจะไม่ทำตัวให้ตายบาทและตายโลน” การสนทนากะใช้เวลาไปตามที่ตั้งหัวข้อไป พอถึงเวลา 17.00 น.อันหมายถึงหมดเวลาโปรโมชั่นของโทรศัพท์กะเลยหยุดแหลง บอกเพื่อนแป้ไปว่าถึงบ้านแล้ว ต้องเอาข้าวให้แมวกิน และต้องไปเซ้อพุงปลากิน วันนี้อยากกินพุงปลา ครับวันนี้กะมีเท่านี้จริงๆครับเพื่อนที่เคารพ และต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการจัดเรียงความคิดในการจัดงานใหญ่ (คิดเอาเองว่าใหญ่น่ะครับ) ขอบคุณในกำลังใจจากเพื่อนมากมายก่ายกอง เราเองกับไอ้ภาส ซึ่ง ณ วันนี้เพื่อนยังบอกว่าไม่เหนื่อย ท่านประธานหยอย และเพื่อนๆอีกหลายคนกะไม่เหนื่อยมากหรอกน่ะเพื่อนๆ บอกแล้วว่าส่วนใหญ่แล้วได้กำลังใจกับเพื่อนฝูงจากเพื่อนมากมายจริงๆ กะเป็นไปตามนั้นน่ะครับ ใครว่างกะพบกันหวันเที่ยงวันเสาร์เลย ใครไม่ว่างกะมาเร็วหิด (อ่านแล้วกะแปลว่ามาเร็วหิด) ไม่ว่าเพื่อนไอ้ภา เพื่อนไอ้เอียดเคลียร์แล้ว ไอ้จุ๊บตามที่บอก เพื่อนเหลี้ยมได้ข่าวมาวันนี้ ไอ้ตรัน ไอ้เชษฐ์ มาวันศุกร์ หญิงหวีมาพร้อมเพื่อนเลี่ยมลงหาดใหญ่ เหวอกรุงเทพมาเท่าที่ซาบ เท่เหลือไม่แจ้งอาจเอาไว้เซอร์ไปรท์ ส่วนเท่เมืองลุงกะคงพร้อมหน้าพร้อมตาตามที่นัดไว้ ค่อยเล่าให้เพื่อนฟังวันหลังครับ ออ.....เพื่อนยุ....... ยุคนธร คนสวยแจ้งมาว่ามาพร้อมไอ้เดือน ใครอยากเห็นเหวอนี้ตัวเป็นๆกะมาพบเพื่อนได้แลกสาวๆไม่ใช่หารแหลงพันนี้พอเป็นเมืองขึ้นของเพื่อนกะหารดีนี้แหละ (เมืองบางเมืองอายุยังน้อย บางเมืองอายุแค่ 38,39 ทั้งที่ตัวเอง 40 แล้ว ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) เท่เหลือกะไอ้เนี่ยมเบี้ยให้แล้ว ใครไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเป็นๆนานแล้วกะอาจพบได้งานนี้ (เพื่อนยังไม่Cancleมาทีว่ามาหรือม๊าย ที่เห็นกะติดเรียนหลายคน (หรือไปส่งเด็กเรียนกะไม่โร๊ะ) สอบเนติฯกะหลาย เช่น ไอ้ฮูก เพื่อนชาติ (อภิชาต)แต่กะ BB มาหาเค็มแล้วว่าฝากเบี้ยกับไอ้เม็ง) แต่กะอย่างที่บอกครับเพื่อนที่เคารพ ฝากไว้คำเดียวว่า “หากไม่ติดไหร เพื่อนยังมาเวลา ยานรถมาได้ เช่น
สายพัทลุง - กงหรา
สายพัทลุง - ปรางหมู่
สาย พัทลุง- ควนขนุน
สายพัทลุง - ปากคลอง
สาย พัทลุง- เขาชัยสน
สายพัทลุง - พังกิ่ง
สายพัทลุง - ป่าพะยอม
สายพัทลุง – ควนถบ
สายพัทลุง - ลำปำ
สายพัทลุง – เขาย่า
สายพัทลุง – เขาปู่
สายพัทลุง – ทะเลน้อย
สายพัทลุง – ลำสินธุ์ - บ้านโตนแพรทอง
ฯลฯ
โดยเฉพาะสายตุ๊กๆรอบเมืองลุง ทั้งหลาย แถววัดโด่หอม เดินเอากะถึง หลบมาน่ะพี่น้อง ตอนนี้หลายอย่างกะสงบแล้ว หลายคนอาจเป็นห่วงน้องฟิล์มกะน้องแอนนี่ กะไม่ปรือชีวิตของน้องเค้าคงแก้ปัญหาของเค้าเอง เรามาสร้างแนวคิดตามอุดมการณ์ซึ่งคิดว่า ถึงเวลาในการขับเคลื่อนแล้ว บ้านเมืองเป็นของเราทุกคน ตั้งแต่หญ้าขี้เตรย จนถึงระบบสุริยจักรวาล หากเราไม่ตายโลนเสียก่อนอีกราว 20-30 ปีข้างหน้าบ้านเมืองของเราเปลี่ยนแปลงแน่นอน เค็มมั่นใจเช่นนั้น จึงนำมาจุดประกายเช่นนี้ ......หวัดดีครับ
ลงเช่อ นายเค็ม คงดำ
โฆษกประจำตัวเลขานุการชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง
ลงเช่อ นายประภาส ชูพูล
เลขานุการชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง
ลงเช่อ (ชิดพงษ์ พัชรดำรงกุล)
ประธานรุ่น 5 อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคพัทลุง

16 กันยายน 2553


เรียน พี่น้องชาวอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง ทุกท่าน

การดำเนินกิจกรรมวันที่ 25 กันยายนนี้ คณะทำงานหลายท่านกะได้ทำงานอย่างเต็มที่ และคืนนี้กะมีกิจกรรมที่บ้านของประธานที่ปรึกษา (พี่วิทย์)ที่ บ้านไสหยี พัทลุง คาดว่าจะมีสมาชิกหลายท่านไปร่วมงาน ผมจะนำมาเรียนให้ทราบอีกที หากท่านใดได้รับเมล์นี้ ได้ยินเสียงแล้ว ทุกเสียงทุกสายกะยินดีต้อนรับครับ ออ..........พี่ดำ (รุ่น 4) ได้ฝากความคิดถึงและห่วงใย พร้อมมีเสียงที่จะกระหึ่มในเมืองลุง และบรรดาทีมงานกะไม่ได้หยุดนิ่งครับ มีความคืบหน้าพอสมควร ป้ายประชาสัมพันธ์กะน้องบกกะติดแล้ว แค่คุณประภาส ผู้ถ่ายภาพ เห็นว่าไกลไปหิดหนึ่ง บังเอิญหมดถ่านเสียก่อน และวันจันทร์จะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ ออ......เย็นนัดคุยกันเรื่องงบประมาณด้วยครับ ติดภารกิจหลายอย่างในวันนี้ เท่านี้ก่อนครับ หวัดดีครับ

เคารพพี่ๆและรักเพื่อนๆฝากความคิดถึงห่วงใยถึงน้องๆทุกคน เมื่อทุกอย่างลงตัว สิ่งที่ทุกคนคาดหวังไม่ไกลเกินเอื้อมครับ บทความครั้งต่อไปจะนำเสนอใน week หน้าครับ

คุณเค็ม คงดำ

12 กันยายน 2553


ครับเพื่อนที่เคารพ มาวันนี้กะแหลงกันเล่าสักหิด พอดีมีอีเมล์มาหาฉบับหนึ่งคับ มีภาพส่งมาด้วยกะสองสามภาพ เป็นภาพที่พักพวกของเรามีกิจกรรมสันทนาการ กัน ณ ร้านอาหารเช่อ เรือนแพฟิชชิ่งพาร์ค รายละเอียดตามภาพถ่ายที่แนบครับ ทีนี้การที่จะเขียนเพื่อให้ได้อรรถรสและเหงือกไม่ทิ่มพุง ข้าพเจ้าอันมีนามกรตามท้องเรื่องว่า นายเค็มกะเลยบอกเพื่อนเสียก่อนว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่กะพอที่จะคาดเดาได้ว่า เป็นพันนี้ เรื่องนี้คงไม่ถึงกับต้องตั้งคณะกรรมาธิการให้มันเวียนหัวน่ะครับ อันนิยายตามปรายหน้าบท มีอยู่ว่า นายประภาส ชูพูล ได้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นัดพบนายธรันต์ บุญรัตน์ (เรือนแก้ว) อันมีเช่อเล่นๆว่า นายตรัน ได้ไปรับเพื่อนเท่สนามบินดอนเมือง ผลปรากฏว่านายหัวเรือหรือคนขับเรือบิน ไม่ได้สนทนากับลูกน้องบนเรือบิน (operater อ่านว่า โอเปอร์เรเตอร์) กันก่อนอีขึ้นบิน ทำให้เกิดการผิดพลาด เรือบินลำเท่เพื่อนเข เลี้ยวหัวไปปร้าสุวรรณภูมิ ) ทำให้นายหัวตรันไปรับไม่ทันเวลา เพราะไปผิดเท่ผิดทาง นายประภาส จึงได้นั่ง แอร์พอร์ตลิงก์ ( ที่นักการเมืองกินกันราวสองเหมินล้าน เสียงนายควนหนุนเค้าว่า ...................) ทำให้นายหัวตรับมาพบเพื่อนรักที่ หลักกิโลเมตรที่ 1 ของประเทศไทย คือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (เค็มเป็นแหละ หวางนี้ปัญญาแล้ว หมันม๊ายว่ะไอ้เหลี้ยม )
ปร้าบนนู๋ ถ้าใครขี้คร้านอีอ่านกะสรุปเอาหราดๆ ว่าไอ้ภาสมาจากสตูลไอ้ตรันไปรับ กะมาอ่านนับถัดจากนี้ไปเลยเพื่อน ไอ้ตรันกะพาไอ้ภาสไปทำธุระหิดหนึ่งราวสองชั่วโมง ทำไหรไม่ได้บอกเพราะมันเป็นของเถือน หลังจากนั้นนัดไอ้ต้น (พลภูมิ นพรัตน์)ไปพบกัน ณ สถานที่นัดพบ แล้วนิยายตามท้องเรื่องกะดำเนินต่อไป มันขับรถไปตามแผนที่ ที่เพื่อนเชต สุรา นำทางไปให้ ไอ้ตรันขับรถไปรับไอ้น้อง (วาริน อินนุรักษ์) เท่บ้าน ทั้งหมดทั้งเพกะพบกันเท่นัดหมาย ในเวลา 17.35 น. ดังนี้
1 ไอ้ภาส
2 ไอ้ต้น
3 ไอ้ตรัน
4 ไอ้น้อง
5 ไอ้จวบ
6 ผู้ติดตามเพื่อนจวบ (น้องโอ๋)
หลังจากนั้น นายหัวจวบกะกล่าวขึ้นทันใดว่า แล้วเหวอสูมากันเท่านี้เหอ พันนี้หลบหวา แต่ไม่ปรือกูท่าสักหิดเพราะกูมาไกลหวาเพื่อน พันนี้แหละ คนไทยไปตามเวลา คือให้เวลาไปก่อน แล้วเหวอเราจะไปตามเวลา คือมาสายเป็นประจำ คล้ายกับสโลแกนพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่งว่า ประชาชนต้องมาก่อน เท่มาก่อนคือประชาชน เท่ไม่มาทีคือเพื่อนเรา แต่การสนทนากันต้องหยุดชะงักโดยพลันเมื่อนายหัวตรันกล่าวสอดแทรกขึ้นมาทันทีว่า ไม่ได้ไอ้จวบ มึงทำพันนี้ไม่ได้ ถึงเรามากันหกคน แต่กูมีข้อมูลว่ามีผู้โทรมา Cancle กับไอ้น้องแล้วว่ามาแน่นอนคือไอ้เหลี้ยมกับไอ้จุ๊บ ไอ้เหวอนี้เดียวมันมา มึงเชื่อกูถะไหนๆกะเชื่อกูมา 20 หวาปีแล้ว จะเชื่ออีกทีหมั๊นอีพันปรือขึ้นนิ นี่กูกะสั่ง re กรมมาแล้วยัง re กระทวงไม่มาทีเพื่อน เดียวอย่าเพิ่งปรือโจ๊ การสนทนาระหว่างกลุ่มหนุ่มสาวซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยอายุ 15 ปีป่านนี้รวมแล้วกะ 25 ปีที่พวกเค้าไม่มีวันลืมกันและกัน ซึ่งการพบกันของกลุ่มเหล่านี้ อาจมีสุรายาเมาไปบ้าง ผู้เขียนคิดว่าไม่ปรือ ปัญหาช่วงการสนทนาคราวแรกกะมลายสิ้น กะดำเนินต่อไปตามอรรถรสของเพื่อนที่ไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่แล้วเพื่อนกลุ่มเหล่านี้กะสนทนากันได้ออกรสออกชาติ ถ้าใครได้ฟังอาจนึกอิจฉา(ความหมายคือ ถ้าใครไม่อาจจะไม่นึกอิจฉา....ฮาๆๆๆๆ) ในการพบปะของกลุ่มบุคคลในวัยย่างก้าวปีที่ 40 หลายคนได้ผ่านมรสุมอมาหลายดอก ตั้งแต่ภัยสิมานิ ภัยการเมือง คดีพฤษภาทมิฬ ภัยโถกยิกยิง ภัยเมาเหล้าขาวแล้วโถกฟัดกับขวด ช่วงฤดูกาลอันเลวร้ายของชีวิต และล่าสุดสี่แยกราชประสงค์ เป็นต้น ตอนหนึ่งของการสนทนา ประภาส ชูพูล ได้โทรมาชวนผู้เขียน โดยกล่าวว่า เค็มมึงมาเที่ยวกับกูม๊าย ตอนนี้กูนั่งโยเท่ร้านอาหาร เรือนแพฟิชชิ่งพาร์ค มาดถานได้เท่ เพื่อนกะลุยเสียเหม็ด นี่กูขนาดประกาศแค่วันเดียว เพื่อนมาจังเสีย เพื่อนภาสกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ บ่งบอกถึงความมั่นใจในตัวเอง เพราะตัวเพื่อนเค็มสั่งหนักสั่งหนาแล้ว ว่าอย่าหยัด แต่มันไม่เคยเชื่อมันกล่าวว่าเพื่อนทุกคน เหมือนหมันเพ้นแหละ ไม่เคยมีใครดักหน้าแข้งมันที ไม่เชื่อถามไอ้ต้นกกะได้ เสียงว่าอีชวนไปสมาคมไหรสักอย่างที่ กสท. แต่เพื่อนภาสแจ้งว่า ติดภารกิจต้องกลับทอเช้า เพราะมอดรถเขามา เขเรือบินหนุกๆ เดียวอีต้องเสียค่ารถเอง เพราะเมียให้มาสองร้อยหกสิบบาท พอเฉพาะค่าตุ๊กๆหลบบ้านเท่านั้นเอง เค็มกะตอบกลับไปว่า ไม่ทันแล้วเพื่อน ตอนนี้เค็มกินข้าวแล้ว กินเอมแล้วด้วย อีกอย่างไกลสักหิด ตอนนี้เค็มโยสุราษฎร์ธานี ไม่ใช่โยรามอินทรา ในเวลาประมาณ 20.00 น.ก็ปรากฎนามของบุรุษนายหนึ่ง อันมีเช่อตามท้องเรื่องว่า พิเชต รักษาพล ตอนไปอยู่กรุงเทพมหานครใหม่ๆ เข้าเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ อันเป็นสถาบันที่มีเช่อเสียงที่สุดในขณะนั้น เขาย่างกรายมาด้วยมาดของนักบิดมือฉมัง ใส่แว่นตาดำขลิบ ขยับสายตา ชำเลืองไปตามมุมต่างของร้านอาหารเช่อดัง แล้วกล่าวเป็นพยางค์ที่สั้นและเข้าใจง่ายเมื่อพบกลุ่มเพื่อนที่นั่งรออยู่ก่อน ขอโทษเพื่อนภาสและทุกคนพอดีรถติดมากหยามนี้ ทุกคนให้อภัยและกล่าวต้อนรับผู้มาเยือนลำดับที่ 7 ครับการพบกันของกลุ่มเพื่อนยังคงดำเนินต่อไป หลังจากนั้นราว 15 นาทีผ่านไป เท่ทุกคนรอคอยมาถึง เพื่อนผู้ไม่เคยคิด ไม่เคยคิดไหร และรักเพื่อนเสมอ นามกรตามท้องเรื่องว่านายหัวเหลี้ยมพร้อมค้วยคุณหญิงเล็ก ผู้ซึ่งพำนัก ณ ซอยมัยลาภจนถึงปัจจุบัน (สถานที่ถ่ายทำชีวิตของเพื่อนเราหลายคน เช่น เพื่อนแป้คาดว่าจะสูนไปแน่นอนแล้ว แต่เมล์คาดว่าจะมีคนอ่าน แต่ไม่รู้ใคร เพราะกูด่ามันไปหลายหนไม่ตอบ เพื่อนเค็มรออยู่น่ะเพื่อน วันนี้กูไม่ด่ามึงแล้ว ) แต่ปัจจุบันเพื่อนเบี่ยงเบนการประกอบอาชีพ ในการดูแลชีวิตมนุษย์ในยามไม่บาย ไปเซิบเอาเองว่าทำไหร เพื่อนผู้ให้ข้อคิดในการไม่บายใจของเพื่อนเสมอมา มีไหรไม่บายทั้งกายและใจ สามารถติดต่อเพื่อนได้ เพื่อนกล่าวเพียงประโยคง่ายๆและสั้นเมื่อพบสหายเก่าๆว่า พันปรือมั๊งเพื่อน หยามนี้ผมเป็นห่วงเพื่อนพอสมควรในการจัดกิจกรรมวันที่ 25 กันยายนนี้ ทำให้เพื่อนหลายคนหยุดคิดและแล้วไอ้ตรันพูดขึ้นมาว่า ไม่ปรือไอ้เหลี้ยมเหอ งานนี้เหวอเราไปกันหลายคน มีหน้าม้าไปเยอะๆไม่ปรือแน่ ไม่ว่าด้านงบประมาณ คล้ายกับคืนนี้เรามีเถ้าแก่น้อง (วาริน)ดูแล และเอนเตอร์เทน ไม่กังวลทั้งสิ้น ขอเพื่อนบายใจได้ ตรันเพื่อนผู้รู้เรื่องเพื่อนค่อนข้างมากกล่าวอย่างภาคภูมิใจ การสนทนาของเพื่อนกะสนทนากันสักพัก เรื่องที่สนทนากะเน้น สอบถามเรื่องราวเพื่อนมั๊ง เรื่องของตัวเอง กะที่สำคัญกะเรื่องงานกิจกรรมในวันที่ 25 กันยายน เพื่อนเชต กล่าวว่า ผมกำลังเคลียร์คิวจะลงตัวแล้ว แต่ยังขาดคนนั่งเป็นเพื่อนและคนช่วยเติมน้ำมัน อันนี้ผู้เล่าเติมไปมั๊งถ้าอีนั่งรถมาดถานควรมากับเพื่อนเชตได้ เพราะเพื่อนมีรถใหม่แล้ว ยี่ห้อคล้ายรถถีบ ไปเสิบกันเอาเอง เพื่อนเค็มกะอีออกสักคันเล่า (รถถีบ) แต่เพื่อนจวบสวนด้วยคำพูดมาทันทีว่า ไม่ต้องไอ้เชต คนเติมจะอยู่ทีปั๊มแล้ว แต่คนช่วยหารเบี้ยค่าน้ำมันต่างหากที่ต้องการ จนล่วงเวลาเลยมาประมาณตี 9 หวา มีหนุ่มนายหนึ่งที่รูปร่างสันทัด หล่อเฟี้ยวเสมอ แต่ไม่มีภรรยาเป็นตัวเองทีเช่อของชายหนุ่มคนนี้คือ ศุภชัย วิมโลภาส หากนึกเช่อไม่ออก อดีตหัวหน้านักเรียนชั้น ม.ต้น เชียวน่ะครับพี่น้อง ชายหนุ่มผู้มีรูปหล่อไม่เปลี่ยนแปลง มีครบทุกอย่างขาดอย่างเดียวไม่เอาเมีย ชายหนุ่มคนดังกล่าวกะมาร่วมสนทนากลุ่มเพื่อนด้วย ถึงแม้จะมาสาย แต่กะเพียบพร้อมด้วยความมุ่งมั่นในการพบปะกันยามค่ำคืน ของคืนดึกดื่นดังกล่าว ความกระบวนกระวายในการคุยกันกะสนุกสนานมาก จนคนข้างโต๊ะหันมามองด้วยความสนใจว่า ไอ้เหวอนี้มัน ทำไหรกัน ตัวกระผมเองคิดว่า สิ่งที่เพื่อนกลุ่มนี้ได้สนทนากันนั้นไม่สูนเปล่า ไม่ว่าเรื่องการคุยกันในการดำเนินชีวิตของเพื่อนฝูง การเล่าเรื่องเก่า การคบหาสมาคม การเปิดประเด็นทางสังคม โดยที่กำลังขับเคลื่อนในขณะนี้ เรื่องของ ชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง เพื่อนภาสและประธานหยอยเป็นผู้ที่เป็นกำลังสำคัญทำในนามของเพื่อนเรา ในกลุ่มของเพื่อนเรารุ่น 5 ได้ดำเนินกิจกรรมที่มีเพื่อนหลายคนเป็นกำลังใจให้ มีกำลังใจในทางงบประมาณบ้าง ทางความคิดบ้าง ทางเอินๆบ้าง เพื่อนหยอยเองกะได้บอกเพื่อนเค็มแลกวันพุธที่ผ่านมาแล้วว่า เราต้องเดินกิจกรรมนี้ต่อไปเรื่อยๆ ๆไม่เหนือยหรอกเพื่อน เค็มเองมีส่วนรับรู้และแสดงความคิด ค่อนข้างหลายเวที ที่มีโอกาส แต่ในการจัดงานครั้งนี้นั้นกะได้รับความร่วมมืออย่างดี เงินคงไม่ใช่สาระสำคัญที่สำคัญเคือเรื่องเพื่อน คำว่าเพื่อนสิมันสำคัญหวา แหลงแล้วน้ำลายไหลครับ เรามีเพื่อนมากมาย นู้วันก่อนได้รับเมล์มาบับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อนเรานามนายหลวงรงค์กะยัง เมล์มาเหลย ใครมีเมล์ yahoo ทำสักทีเล่าเพื่อนภาสเหอ ส่งไปให้มันกัน บอกแล้วระยะทางไม่ใช่อุปสรรค เพื่อนรงค์หยามนี้อยู่ดินแดนปลาดิบ หลบราวปีใหม่ เพื่อนอย่าลืมเซ้อเหนียวหลามมากินสักบอก น่ะเพื่อนนะจนกระทั่งล่วงเลย จนถึงดึก ประมาณ 23.25 น.ทางนายหัวประจวบ ยุทธศรี จึงขออนุญาตกลับก่อน พร้อมคุณศุภชัย หรือไอ้จุ๊บ กะไปพร้อมกัน เมื่อเรียก เช็คบิลล์ ทุกคนกะชิงกันชักเบี้ย ซึ่งหากสมัยก่อนพอถึงเวลานี้ กะชิงกันเข้าห้องน้ำ แต่เพื่อนเราโชว์ความมาดถาน กะได้จ่ายกันทั่วหน้าทุกคนเทอญ
ณ ลานจอดรถ ไอ้ตรันกล่าวว่า ไอ้เหลี้ยมกูต้องไปส่งไอ้น้อง มึงว่าปรือ เพื่อนเหลี้ยมหันไปทันทีตอบโดยไม่ยั้งคิด ว่า กูไปกัน หลังจากนั้นหนุ่มสาววัยดึก กะได้สนทนากันต่อที่บ้านไอ้น้อง (วาริน อินนุรักษ์) จนเวลาล่วงเลยของวันใหม่ไปราว สามชั่วโมง กะแยกย้ายกันกลับบ้าน พอหัวเช้าทุกคนกะปลอดภัยดีทุกคน ทุกนาม ครับนิทานกะจบโดยบริบูรณ์ ณ บัดนี้
ปล.ฝากข่าวเพื่อนทุกท่านทราบ เค็มไม่โทร ไม่ทวงใครแล้วน่ะครับ ขอบคุณ ทุกเสียงทุกสายที่ติดต่อมาและเค็มติดต่อไปแต่กะไม่ได้โทรถึงทุกคนขออภัยด้วยครับ สำหรับประเด็นเรื่องเพื่อนเนี่ยม (พิชิต นวลมะโน) กะมีทางออกให้กับสังคมเรียบร้อยแล้ว เพื่อนเมล์เข้ามาทักทายแล้วว่า เพื่อนเค็มลืมและพิมพ์เช่อตก เพราะเรามีเช่อ พิชิต สองคน อีกคนกะไอ้ฮูก (พิชิต เจริญศรี) ณ บัดนี้เพื่อนเค็มกะนับและเทิ่มเช่อเพื่อนเข้าไปแล้ว ขออภัยด้วยจริงๆครับ ประเด็นถัดมาในนามเพื่อนประธานรุ่นของเรา นายหัวหยอยฝากแจ้งประชาสัมพันธ์ มาด้วยแล้วจะรวบรวมเช่อสายเสแยกช่องโก ในวันสองวันนี้ เห็นได้ข่าวจะพบเลขาภาสในวันเสาร์หน้านี้ กะติดต่อกันได้ ไอ้แขกเที่ยวถามหาเสียงว่า เหวอเราอีเอากันพันปรือดี บัดสีไอ้ภาสมัน เห็นมันเค็กจังแล้ว ไอ้เค็มกะโม้เอาๆ (เค็กคืออาการของคนที่บายใจแล้วบอกเพื่อน ถ้าเพื่อนเข้าใจไม่ปรือ แต่ถ้าไม่เข้าใจ อาจโถกถีบพลัดหนำได้) ประธานหยอยสั่งการว่า บอกแล้วเอาตามนี้ครับ อ่านเมล์ไอ้เค็มไปเรื่อยๆ พอเวียนหัวชักเบี้ยทียี่สิบ ชักจำนวน 20 ครั้งเบี้ยกะครบ 500 ไม่ไปร่วมงานได้เสื้อ 1 ตัว ถ้าชักจำนวน 1K กะรับเจ๊กเก๊ต 1ตัวถึงแม้ไปหรือไม่ไปได้ กะไม่ปรือจะได้เสื้อทุกคน นิทานกะมีเท่านี้ครับ ท้ายสุดนี้หากเพื่อนท่านใดไม่ติดภารกิจไหร และมีเงื่อนเวลาโดยสามารถบริหารจัดการได้ โดยมาร่วมงานได้ เชิญทุกท่านครับพบกัน หน้าแผนกอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง ในวันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553 ตั้งแต่เวลา 16.30 น.เป็นต้นไปครับ สวัสดีครับ

01 กันยายน 2553

WALLPAPER


ครับตั้งเช่อเรื่อง รู้สึกแปลกไปหิด ปรายหน้าบทกะออกไปพอสมควรแล้ว เจ้าอาวาส (หมอเหลี้ยม) กะมาทักทายแล้ว ครับขอบคุณในกำลังใจทุกท่าน แลกแตวากะส่งข่าวสาร รายงานการประชุมไปให้อ่านแล้ว ติดตามกันเล่าน่ะเพื่อนที่เคารพ เพื่อนเค็มในฐานะเข้าไปนั่งในห้องประชุมกันกะบรรยายสรรพคุณให้เพื่อนฟังแล้ว กะคงคิดว่าเรื่องราวคงดำเนินการต่อไปเล่าวันนี้คงแหลงน้อยสักหิด พบกันค่อยแหลงกันเล่าครับ ก็กะสรุปในส่วนของเพื่อนของนายประภาส สาขาปรางหมู่ ที่สมทบทุนแล้วดังนี้ครับ ตกหล่นตรงไหน ตะโกนลิงก์มาได้น่ะครับ
1ไอ้ตรัน (ธรันต์ เรือนแก้ว(บุญรัตน์))
2ไอ้ศักดิ์ (ศักดิ์ชัย ช่วยเมือง)
3ไอ้เค็ม(สุเชษฐ์ คงดำ )
4ไอ้เชษฐ์ (พิเชต รักษาพล)
5ไอ้ฮูก (พิชิต เจริญศรี)
6ไอ้กุล (สกุล สมหวัง)
7ไอ้นวล (วิทยา มณีรัตน์ )
8ไอ้หลวงรัตน์ (วิรัตน์ บัวทอง)
9ไอ้ต้น (พลภูมิ นพรัตน์)
10ไอ้น้อง (วาริน อินนุรักษ์)
11ไอ้ภา (สุภา ด้วงนุ้ย)
12ไอ้ขวัญ (ศุภลักษณ์ สาระอาภรณ์ (สมหวัง) )
13ไอ้ฟอง(อุบล เผือกแสง )
14ไอ้เอียด (บุญศิริ จงบุรี)
15ไอ้แดง(บุษราภรณ์ มังสังข์)
16ไอ้เม็ง(รัตชัย คงเคว็จ)
17ไอ้จวบ(ประจวบ ยุทธศรี)
18ไอ้ขวิด(ฉวีวรรณ ชูปาน)
19ไอ้จุ๊บ(ศุภชัย วิมโลภาส)
20ไอ้เชษฐ์ (พิเชษฐ์ สุดาวรรณศักดิ์)
21ไอ้ขวัญ (ปิยพันธ์ ปานยิ่ง)
22ไอ้ภาส(ประภาส ชูพูล)
23ไอ้เลี่ยม(อนุชาติ จำนงค์)
24ไอ้โต้ง (อุดมศักดิ์ ชูฤทธิ์)
25ไอ้ทัก (พิทักษ์ ทองชุม)
26ไอ้ชาย(สมชาย เจริญรัตวงศ์)
27เพื่อนชาติ (อภิชาต คงวุ่น)
28ไอ้โรจน์ (วิโรจน์ หนูตีด)
กะว่าอีเผยจำนวนหรือปล่าว หรือไม่เปิดเผยกะเกรงใจคนที่สมทบไม่เท่ากันและมีปัญหาความโปร่งใสกัน กะเลยเผยแต่เช่อก่อน เช่อนี้กะอีไม่เผยกันทีแรก มันมีประเด็นหลายอย่างหารือผู้รู้หรือกูรูหลายท่านกะจบลงมีแต่เช่อใครเท่าใดถามไอ้ภาสกะได้ นู้แต่วาเห็นว่าหญิงหวีกะเข้าบัญชีไอ้จุ๊บแล้ว นู้ยังอีกสองสามเลขหมายไม่โร้ของใครที
- ใครโอนเข้าบัญชีวันที่ 29 สิงหาคม 1000 บาท รหัสธนาคาร 957 (สาขาโลตัสเมืองลุง)
- ใครโอนเข้าบัญชี30 สิงหาคม 1000 บาท รหัสธนาคาร 957 (สาขาโลตัสเมืองลุง)
- ใครโอนเข้าบัญชี 31 สิงหาคม 1000 บาท โอนโดยวิธี.....................
ไม่โร้อีทำปรือดีคคับ แต่ยอดรวมตอนนี้เกินสองเหมินแล้วครับ (ยังไม่รวมสายเสแยกช่องโกทีครับ ยังมั๊งที่รับปากด้วยวาจา เหวอนี้ตามทวงได้ไอ้ภาสเหอ แต่กะถือว่าเราส่งข่าวไปแล้วน่ะเพื่อนนะ) นายหัวภาสบอกว่าบายใจแล้วที่สุด สุดๆไปเลย แต่หากท่านใดจะสมทบเพิ่มเติมกะยินดีเป็นอย่างยิ่ง (เบี้ยน่ะไม่ใช่หญ้าขี้เตรย) ยิ่งมีกำลังเราก็มีพลัง นู้ไอ้โต้งมันเป็นผู้จัดการไอ้ไหรแล้วว่ะกูอ่านไม่ค่อยออก กะแจ้งมาแล้วเพื่อนช่วยบอกด้วยว่าเท่าใดน่ะ เค็มจะจดไว้ในโฉนดโถก ของไอ้เชษฐ์ รักษากัน เท่าใดเมล์มาเฉพาะเค็มกะได้ คนเอินโร้แล้ว ไอ้หลวงรัตน์กันโอนวันไหน จำวันที่ให้ได้น่ะครับ สงสัยคือสาขาพัทลุงสองคนไม่โร้ใครโอน ยังหาไม่เจอครับ ก่อนหน้านั้นโอเคหมดแล้วครับ แลกวันก่อนเค็มกะเค็กว่าเหวอเรา อันหมายถึงเหวอเพื่อนๆกันนั่นแหละมาดถานโม้ไว้มากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นของผิดกฎหมายเพ้น กะเลยไม่เล่าให้เพื่อนๆฟัง เพราะมันเป็นของเถือน........ฮา........... ออ.....นายหัวชาญ (วิชาญ หนูพรหม) เท่แจ้งมาทางเมล์ นี้มาสมทบแต่หัววันแล้วไม่ถามสักคำ ขอบคุณในกำลังใจ ที่เพื่อนเป็นต้นเรื่องให้และแสดงความประสงค์ ผมเองและคณะหมายถึงหลายคนกะขอบคุณจริงๆครับ ล่าสุดกะมีภาพถ่ายลูกสาวสวยจัง หยำเอาคนทางโน้น มันสบายดีแฮ......เค็มกะเคยพำนักแถวนั้นเมื่อสมัยบ่าวๆครับหวางนี้มานอนแคงโยสุราษฎร์ธานี นอนอยู่บ้าน มีแต่บ้านจริงๆครับ กับโท่เย็นหนึ่งเครื่อง โทรทัศน์หนึ่งเครื่อง พัดลมหนึ่งตัว สาดและหมอนอย่างละผืน ชีวิตไม่ใช่มีไหรมาก ถามเพื่อนจวบกะได้แวะมาเวียนเมื่อวันก่อน ยินดีต้อนรับใครขับรถผ่าน สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โคออฟ) บ้านเค็มห่างราว 500 เมตรแวะอาบน้ำได้แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าสักหิด จะได้หลบมาทัน เท่เหลือสายเสแยกช่องโก ประสานงามาได้น่ะครับ เช่น บ่าวชัชวาล ณ พัทลุง บ่าวโอเล่ห์ บ่าวยุทธ ชูสุดรักษ์ (ติดต่อแล้วบ่าวหน่องมาแน่ เพื่อนอีมาแลเพื่อนที่มันได้กันกะโอเคน่ะครับ ) บ่าวมาด บ่าวแขก บ่าวติ เพื่อนวิทย์ พี่พูนพันนิ คนสวย(ยุ) ยุคนธร อย่าลืมเอามือปืนมากัน มาหนนี้มาสักสามชีวิตได้แล้ว แขบหิดเดียวไม่ทันเพื่อน นู้เพื่อนประธานหยอยของเรา หยามนี้ไม่ต้องทำไหรกันแล้ว แลแต่โลก ครับยุ่งจริงๆไอ้ลูกอ่อนนี้ เค็มเข้าใจครับ ยิ่งถ้าลูกกินนมแม่ อันนี้ยุ่งไปเหลยเล่า บางสิ่งบางอย่างสิ่งที่เราเคยได้กินกะไม่ได้กิน สิ่งที่เราเคยได้กะไม่ได้ เออ.....กลุ้มแทนท่านประธานหยอย วันงานอย่าลืมเตรียมกล่าวสุนทรพจน์ด้วยเพื่อน ส่วนคนสวยสาวนี และบ่าวเอินๆ อีก ฯลฯ ส่งข่าวมามั๊งกะดีครับ รอ.....อยู่แถวหลาดเสกักเมืองลุง
ท้ายสุด สุดท้ายนี้ รุ่นของเราเป็นรุ่นที่พลังมากในตอนนี้ (คิดเอาเองนะครับ) เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะกำหนดในการทำงาน มันเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน แต่ใจซิคิดว่าสำคัญ คิดว่า ณ นาทีนี้กะบายใจสุดๆเลยเพื่อน (ถึงแม้ในวันงานจะมีรุ่นเหวอเราสัก 10 คนกะบายใจอย่างแรงแล้วครับ) หลายๆอย่างที่ทำมาไม่สูนเปล่า มันคงมีเส้นทาง ตามทางของมัน มีคนสานต่อ กะบายใจ เพื่อนทุก ๆคนเป็นช่วย แต่สุดท้ายแล้วคนที่เหนือยที่สุดกะคือเพื่อนภาส ของเราและประธานหยอยกะให้กำลังใจคนทำงานเสมอมา สวนเค็มไม่มีประเด็นไหรมาก แต่แหลงมากไปหิดหนึ่งกะขออภัยเพื่อนฝูงด้วยความยินดียิ่งครับ แหลงหยอกกันมั๊ง เอิดไปมั๊งกะขออภัย แต่ที่ทำมาทั้งหมดกะเพื่อเพื่อนๆของเรา เพียงแต่ใช้วิชาที่มีอยู่ในการนำเสนอ เพราะแก่ขึ้นทุกวันเข้าใจสัจธรรมมากขึ้น เค็มมีหน้าที่ในการโหมลูกมุด ให้เรานึกแลเพื่อนๆทุกคนเหมือนลูกมุด(ดูด)ที่กำลังสุกออมได้เท่ แล้วเค็มเข้าไปโหมให้มันหล่นลงมากองรวมกัน หล่นได้เท่าที่หล่น เท่เหลือกะค่อยว่ากันเล่า หล่นเองมั๊ง แต่ท้ายสุดทุกคนกะมากองรวมกัน กองรวมกันแล้วกะกองรวมกัน ดำรงไว้ซึ่งความเป็นเพื่อนที่ไม่มีวันจาง ให้อภัยกันตลอดเวลา ให้อภัยกันเสมอมา ไม่คิดหรือเคยคิดโกรธเพื่อนเลย นี่แหละความเป็นเพื่อน ขอบคุณครับ

นายเค็ม รูปหล่อ หนี้สินพอสมควร
ปฏิบัติหน้าที่เป็นWALLPAPER ของเลขานุการชมรมอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง แต่กะไม่เข้าไปในคุกโดยพลการ.........................ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ