26 ตุลาคม 2554

เรื่องของพ่อที่เขียนไว้(จดหมายเหตุบ้านโตน)

จดหมายเหตุบ้านโตนเขียนขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านหนังสือได้ศึกษาหาข้อมูลต่างๆ ที่นักอ่านหนังสืออยากทราบเรื่องราวที่ผ่านมาของหมู่บ้านในแต่ละยุคสมัยจนถึงปัจจุบัน และข้อมูลต่างๆของสังคม ข้าพเจ้าผู้เขียนจะพยายามค้นคว้าข้อมูลแต่ละยุคสมัยมาเขียนไว้ให้ละเอียดที่สุด เพื่อผู้อ่านได้เล็งเห็นถึงความเป็นมาอย่างแท้จริง เพราะตอนนี้ผู้เขียนอายุก็ปาเข้าไป ห้าสิบห้าปีแล้วพอที่จะมีอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านโตน ไม่ว่าจากการเล่าขานจากคนรุ่นปู่ย่าตายายและประสบการณ์ด้วยตนเองมาโดยตลอด
จากการเล่าขานของคนรุ่นแม่เล่ากันว่า เมื่อก่อนพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นป่าดงดิบ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาพันธ์ เพราะเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์และห่างไกลจากตัวเมืองมากมีภูเขาล้อมรอบ พื้นที่ราบมีไม่มากนัก มีสายน้ำลำธารหลายสายจนนับไม่ถ้วน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำ สัตว์ป่านานาชนิด ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้บุคคลเข้ามาอาศัยทำมาหากินกันหลายหมู่เหล่า บุคคลกลุ่มแรกที่เข้ามาที่เข้าทำมาหากินในป่าแห่งนี้ คือกลุ่มคนชาวตำบลกงหรา ซึ่งขณะนั้นตำบลกงหราได้เกิดโรคห่าอย่างร้ายแรงมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก เหมือนพวกหนีร้อนมาพึ่งเย็นและมาพึ่งบารมีทวดโตน พร้อมกับสายน้ำอ้นบริสุทธิ์ของคลองโตนที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ที่พวกเขาหวังว่าจะหล่อเลี้ยงพวกเขาได้ชั่วลูกชั่วหลาน จนพวกเขาร่วมมือร่วมใจพลิกผืนป่าแห่งนี้ให้เป็นสวนไร่นาขึ้นอย่างขยันขันแข็ง และได้รับการตอบรับจากผืนป่าแห่งนี้อย่างภาคภูมิโดยเหตุร้ายกรณีเกิดโรคห่าอย่างร้ายแรงก็หายเป็นปลิดทิ้ง พวกเขาได้อาศัยผืนป่าแห่งนี้ทำมาหากินอย่างมีความสุข พวกเขาสามารถสร้างสวนผลไม้ขนาดสามสิบกว่าไร่โดยไร่สวนแห่งนี้ กลุ่มคนเหล่านี้สามารถนำผลผลิตมากินร่วมกัน อันภาษาปักษ์ใต้เรียกว่า สวนสมลม โดยสถานที่แห่งนี้เรียกว่า บริเวณท่าหัวนอน ที่ดินผืนนี้มีให้เห็นเมือสามสิบกว่าปีก่อน สวนผลไม้แห่งนี้เป็นแหล่งต้นกระกูลของคนบ้านโตนแห่งนี้ใช้เป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง เพราะสวนแห่งนี้ทุกคนในหมู่บ้านสามารถกินได้ทุกคน ดูแลทุกคน โดยแบ่งตามเครือญาติไม่มีการซื้อขาย ดังนั้นส่วนแห่งนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนทุเรียน เป็นสมบัติชิ้นสำคัญของคนในสมัยนั้นที่คอยเตือนความทรงจำของเครือญาต หลายปีผ่านไปเมื่อประมาณปี ๒๕๕๔ ก็ได้เกิดหมู่บ้านโตนซึ่งมีครัวเรือนจำนวน ๑๗ ครัวเรือนเท่านั้นเอง โดยมีหลักฐานชิ้นสำคัญคือบุคคลสำคัญที่สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆให้แก่ข้าพเจ้า คือ คุณยายขับ ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่เกิดในหมู่บ้านแห่งนี้ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า มีหมู่บ้านโตนเกิดขึ้นและมีเพียง ๑๗ ครัวเรือนเท่านั้น เป็นหมู่บ้านที่อยู่ด้วยกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข มีการพึ่งพากันและกันเป็นชุมชนเล็กๆในการดำรงอยู่เพื่อความอยู่รอดเป็นสังคมแห่งการแบ่งปัน กลุ่มคนเหล่านี้สมัครสมานสามัคคีกัน มีใจอันหนึ่งอันเดียวกัน มีหลักฐานเชิงประจักษ์เมื่อข้าพเจ้าเล็กๆข้าพเจ้าจำได้ดีว่า สวนทุเรียนท่าหัวนอนเป็นสวนทุเรียนที่เป็นจุดรวมศูนย์ของหมู่บ้าน แต่สวนทุเรียนเหล่านี้ก็มีอันมลายไปสิ้นเมื่อปี ๒๕๒๔ ได้เกิดอุทกภัยที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้ารู้จัก ได้เกิดขึ้นทำให้สวนทุเรียนอันเป็นที่รักยิ่งได้หายไปจากหมู่บ้านโตนแห่งนี้ ซึ่งอุทกภัยที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตข้าพเจ้าจะนำมาเล่าในตอนต่อไปครับ.......